เฟสบุ๊คเปิดให้ผู้ใช้งาน รายงานความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว เพื่อกำจัดเพจที่ชอบปล่อยข่าวลวง - Khao Dee Social News
🌍 Khao Dee Social News: ข้อมูลสมุนไพรไทยและสมุนไพรอื่นๆ น่ารู้ ข่าวชาวบ้าน สมุนไพร เกษตร สัตว์ สถานที่ แชร์กระจุยข่าวกระจาย และคลิปฮาน้ำตาไหล😅😂🤣 PopCash.net
เฟสบุ๊คเปิดให้ผู้ใช้งาน รายงานความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว เพื่อกำจัดเพจที่ชอบปล่อยข่าวลวง

เฟสบุ๊คเปิดให้ผู้ใช้งาน รายงานความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว เพื่อกำจัดเพจที่ชอบปล่อยข่าวลวง

Share This

เฟสบุ๊คเปิดให้ผู้ใช้งาน รายงานความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าว เพื่อกำจัดเพจที่ชอบปล่อยข่าวลวง

หลังจากที่เฟสบุ๊ค ได้ประกาศควบคุมพื้นที่หน้า นิวส์ฟีด  ด้วยการลด การเข้าถึง หรือการมองเห็นของ แฟนเพจ ลง ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง กลายเป็นนความวิตกกังวลและส่งผลให้หุ้นของ เฟสบุ๊ค ร่วงหนักมาก โดยมูลค่าลดลงไปถึง 3.3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ หนึ่งแสนสองหมื่นล้านบาท)   ล่าสุดเฟสบุ๊ค ได้ออกประกาศอีกครั้ง และอธิบายขยายความว่า การควบคุมพื้นที่หน้า นิวส์ฟีดนั้น เพื่อให้ผู้ใช้ได้ประโยชน์สูงสุดเท่านั้น และครั้งล่าสุดจะเข้ามาเพื่อควบคุมกับ แฟนเพจ ที่เกี่ยวกับบทความและข่าว เพื่อให้สามารถแน่ใจได้ว่า จะมีการนำเสนอข่าวที่เป็นข่าวจริง มีแหล่งที่มาที่ยืนยันได้  และเปิดให้ผู้ใช้ช่วยกันยืนยันเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าวนั้น ๆ โดยฟังก์ชั่นนี้จะเปิดให้กับผู้ใช้บางคน แบบสุ่ม เพื่อให้ช่วยกันยืนยันถึงแหล่งที่มา แล้วระบบของเฟสบุ๊ค จะนำไปวิเคราะห์ว่า บทความนั้นมีความน่าเชื่อถือมากน้อยเพียงใด

จากข่าวลือตั้งแต่ปีที่ผ่านมา ที่บอกว่า  เฟสบุ๊ค จะลด Reach ของ Fan Page ลงจนเหลือ 0%  หรือนำโพสของเพจไปซ่อนในแท็ปอื่นบ้าง ไม่ให้เห็นในหน้า News Feed บ้าง ทางด้าน Mark Zuckerbergก็ออกมายืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด Reach ของเพจที่มีคุณภาพอาจจะถูกควบคุมจริง และอาจจะลดลงจริง จาก 5% เหลือประมาณ 3-4% แต่ก้ไม่ใช่ว่าทุกโพสจะได้ Reach เท่านี้ เพราะหากเป็นโพสที่มีความน่าสนใจ และมีคุณค่าต่อสังคมในวงกว้าง (ที่เกิดการพูดถึงหรือการแชร์อย่างรวดเร็ว) ก็จะสามารถเข้าถึงได้อย่างไม่จำกัดผลกระทบเบื้องต้นจากเจ้าของเฟสบุ๊ค Fan page หลังประกาศ

จากการทดสอบและสังเกตการณ์ของผู้เขียนเอง พบว่า หากเป็นแฟนเพจคุณภาพต่ำ ที่โพสคอนเท้นต์ทั่ว ๆ ไป หรือคอนเท้นต์ที่ก็อปปี้ต่อ ๆ กันมา จะได้รับผลกระทบกับการลด Reach ในครั้งนี้เป็นอย่างมาก และหลังจากการประกาศครั้งที่ 2 ของ Mark Zuckerberg อาจจะถูกล้างบางคือไม่ถูกพบเห็นอีกเลย เนื่องจากเฟสบุ๊ค จะประเมินว่า เนื้อหาเหล่านี้ไม่มีคุณภาพ

แล้วเนื้อหาประเภทใดจึงเป็นเนื้อหาที่ไม่มีคุณภาพในสายตาของ Facebook ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหาจากเว็บ Clickbait  ที่ชอบหลอกให้เข้าไปอ่าน แต่เนื้อในกลับไม่ตรงกับที่พาดหัวข่าว ซึ่งในส่วนนี้ เฟสบุ๊คสามารถตรวจจับเว็บไซต์เหล่านี้ได้นับตั้งแต่วินาทีที่กดโพสเลยทีเดียว หรือคอนเท้นต์ประเภท Engagement bait ที่หลอกหรือกระตุ้นให้กดไลค์กดแชร์ เช่นกดไลค์แล้วจะโชคดี สาธุ 999 เหล่านี้จะโดน เฟสบุ๊ค ลงโทษอย่างหนักแน่นอน

ในส่วนของคอนเท้นต์คุณภาพ หากคุณไม่มีเวลา หรือไม่สามารถสร้างคอนเท้นต์ของตัวเองได้ การแชร์คอนเท้นต์จากเพจที่ใหญ่กว่าและได้รับความนิยมสูงกว่า ก็เป็นทางเลือกที่ดีอย่างหนึ่ง ซึ่งจากการทดสอบแชร์คอนเท้นต์ที่กำลังได้รับความนิยมจากเพจอื่นที่มีไลค์และแชร์มาก มาที่เพจของตัวเอง ก็ได้รับการเข้าถึงดีมาก เกือบ 20% เลยทีเดียว ในขณะที่ถ้าโพสเองอาจจะเข้าถึงเพียง 5% เท่านั้น แต่คำเตือนก็คือ คอนเท้นต์ที่จะแชร์มา ควรเกี่ยวข้องกับเพจของเราด้วย ไม่ใช่เลือกแต่เฉพาะคอนเท้นต์ที่ได้รับความนิยม จะแชร์คลิปเด็กน่ารัก หรือแมวน่ารัก บนเพจขายเสื้อผ้า ก็ไม่เกี่ยวกับสินค้าและภาพรวมของเพจ ซึ่งช่วงแรก ๆ อาจจะเข้าถึงได้ดี แต่นานวันเข้าเฟสบุ๊ค ก็จะมองว่าเพจของเราเป็นเพจที่ไม่มีคุณภาพได้

การก็อปปี้คอนเท้นต์จากเพจอื่นมาโพสต์ที่เพจของเรา จะเป็นสิ่งต้องห้าม แม้คอนเท้นต์นั้นจะเคยได้รับความนิยม แต่หากเราก็อปปี้มาโพสต์เฟสบุ๊ค จะรู้ทันทีและการเข้าถึงจะน้อยมาก หากทำซ้ำบ่อยๆเข้าก็จะถูกลดการเข้าถึงเป็น 0 ในที่สุด สรุปผลลัพธ์จากการประกาศลด Reach ของเฟสบุ๊ค

จากการทดสอบของผู้เขียนกลับพบว่า การเข้าถึงเพิ่มขึ้นหลังจากการประกาศ ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่เฟสบุ๊ค เริ่มกวาดล้างเพจที่โพสคอนเท้นต์คุณภาพต่ำออกไปได้เกือบหมดแล้ว ทำให้พื้นที่หน้า News Feed มีเหลือมากขึ้น เพจที่โพสคอนเท้นต์คุณภาพทั่ว ๆ ไปก็จะสามารถเข้าถึงได้มากขึ้นเช่นกัน


หากเพจของคุณกำลังประสบปัญหาการเข้าถึงลดน้อยลง ควรตรวจสอบคอนเท้นต์ที่คุณโพสว่า เข้าข่ายคอนเท้นต์คุณภาพต่ำหรือไม่ ลองปรับเปลี่ยนคอนเท้นต์และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ เพื่อสื่อสารกับแฟนเพจของคุณเท่านั้น ควรสร้างเนื้อหาที่ทำให้เกิดการพูดคุยกันมากยิ่งขึ้น เพราะเฟสบุ๊ค ชอบให้เกิดการพูดคุยกัน และสร้างเป็นสังคมย่อย ๆ ขึ้นมา หากคุณสามารถทำให้เพจของคุณเป็น Community ได้ Reach หรือการเข้าถึงของเพจคุณจะเพิ่มขึ้นสวนกระแสอย่างแน่นอน

ที่มา: bloomberg

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น